Saturday, May 28, 2011

ปลาได้น้ำ


ไม่ทราบว่าใครที่เป็นคนพูดไว้ก่อนยุบสภาว่าต้องแยกปลาออกจากน้ำเพื่อที่จะเอาชนะเลือกตั้งวันที่ ๓ กรกฎาคมนี้ให้ได้

หากพิจารณาตามคำของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ซึ่งบัดนี้กลายเป็นผู้ต้องขังตามกฏหมายเบ็ดเสร็จ ม. ๑๑๒ ที่ว่า ข้อเสนอที่ให้แยกคนเสื้อแดงออกจากพรรคเพื่อไทยนั้นไม่ควรพูดออกจากปากมิตรด้วยกัน แต่ควรเป็นคำพูดของศัตรู

ก็น่าจะเป็นเรื่อง สนิมเกิดแต่เนื้อในตน มากกว่าสิ่งที่ปรากฏในความพยายามโดยรัฐบาลรักษาการของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผ่านทางมือปราบดีเอสไอ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะทหารบูรพาพยัคฆ์ ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันท์โอชา ผบ.ทบ. อันมี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบกเป็นกำลังหลัก ด้วยความร่วมมืออย่างแข็งขันของตุลาการศาลอาญา

ว่ากันตามกลยุทธ์ทางการเมืองแบบไทยๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์ถนัดในฐานะที่เป็นผู้ดำเนินการ และควบคุมเลือกตั้ง ทางชนะมีอยู่แล้ว

เพราะถ้าคะแนนสูสี ไม่ว่าประชาธิปัตย์หรือเพื่อไทยเป็นฝ่ายนำ การตั้งรัฐบาลโดยดึงเอาพรรคร่วมเดิมๆ ทั้งภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา รวมไปถึงพรรคเล็กพรรคน้อยอย่างรวมใจไทย และพรรคใหม่ของบิ๊กบัง คมช. พล.อ.สนธิ บุณยะรัตนกลิน และพรรครอส้มหล่นของ ร.ต.อ. ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ก็เป็นที่คาดหมายว่าจะต้องเข้าทางประชาธิปัตย์ทั้งสิ้น

แต่หากตัดเสื้อแดงออกไปจากฐานคะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยได้ด้วย ทางชนะนั้นย่อมผ่องใสยิ่งขึ้น

นั่นเป็นแผนการกระชับพื้นที่ทางการเมืองด้วยวิชามารก่อนกระแสความนิยมพรรคเพื่อไทยแซงหน้า ปชป. ในโพลต่างๆ หลังจากเปิดเผยเป็นทางการว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร มอบหมายให้น้องสาวคนเล็ก น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รับหน้าที่เป็นหมายเลขหนึ่งของพรรคเพื่อไทย

มันเป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจไม่ยากเมื่อดูจากนิสัยทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ว่าวิธีการแยกปลาเพื่อไทยจากห้วงน้ำกว้างใหญ่ของคนเสื้อแดงจะหมายถึงการจับแกนนำเสื้อแดงในสายเพื่อไทยใส่คุกด้วยข้อหาที่หยิบเอามาใช้แสนง่ายในยุคที่รัฐบาลรักษาการมีครอบเหนือหัวว่า เทพประทาน นั่นคือ หมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ดังที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิสิต สินธุไพร ถูกจับยัดห้องขังหลังพ้นจากเอกสิทธิ์คุ้มกันสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ไม่เพียงเท่านั้น ทางดีเอสไอโดยนายธาริตที่พรรคประชาธิปัตย์ส่งเข้าไปเป็นอธิบดีสำหรับรับช่วงงานกวาดล้างเสื้อแดงต่อจาก ศอฉ. หรือศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งจำเป็นต้องปิดลงไปเพราะอายนานาชาติ รีบดำเนินการส่งฟ้องแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. อีก ๑๘ คน ในข้อหาหมิ่นฯ เช่นกัน

โทษฐานที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกับนายจตุพร เมื่อคราว ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยไปปราศรัยรำลึกผู้เสียชีวิตในวันครบรอบปีการขอคืนพื้นที่ผ่านฟ้า-แยกคอกวัว เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน บางคนยืนบนเวทีแล้วทำหน้ายิ้มแย้มชอบใจขณะนายจตุพรปราศรัย บางคนขึ้นไปให้การชื่นชมสนับสนุน เหล่านี้โดนข้อหาที่ดีเอสไอส่งฟ้องทั้งสิ้น

ยังมีบางคน อาทิ ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่ถูกเล่นงานด้วย ม. ๑๑๒ ก่อนเลือกตั้ง จากที่เคยวิพากษ์วิจารณ์สถาบันฯ ในที่สาธารณะ แม้ว่าจะมีข้อโต้แย้งได้มากมายว่าเข้าข่ายหมิ่นฯ หรือไม่ แต่ดีเอสไอก็อ้างเหมาเอาว่าผู้ต้องหาถูกส่งฟ้องเหล่านี้อยู่ในขบวนการล้มเจ้าตามผังที่ ศอฉ. เคยประกาศออกมา

ทั้งๆ ที่ผังดังกล่าวได้รับการสารภาพในศาลโดยอดีตโฆษก ศอฉ. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด แล้วว่าถูกแต่งขึ้นโดยปราศจากข้อเท็จจริงรองรับ

เพียงเพื่อใช้โต้ข้อกล่าวหาของ นปช. ในขณะนั้นที่ว่า ศอฉ. มักปฏิบัติตามคำสั่งที่ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ นางสนองพระโอษฐ์สมเด็จพระราชินีโทรศัพท์เข้าไป แถมโบ้ยต่อว่าศอฉ. มิได้เจาะจงรายชื่อบุคคลในผังนั้นเป็นผู้ร่วมขบวนการล้มเจ้า แต่สื่อมวลชนเอาไปตีความกันเอง

ใครก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่อธิบดีกรมสอบสวนฯ จะไม่ทราบถึงคำให้การในคดีที่อาจารย์ สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ ฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพ.อ.สรรเสริญ แล้วโจทก์ถอนฟ้องเพราะ พ.อ.สรรเสริญ จำเลยที่สามให้การยอมรับว่าผู้มีรายชื่อในแผนผังล้มเจ้าของ ศอฉ. รวมทั้ง อจ.สุธาชัย ไม่ได้อยู่ในขบวนการล้มสถาบันกษัตริย์

การที่นายธาริตยังส่งฟ้องแกนนำ นปช. อีก ๑๘ คนโดยอ้างผังล้มเจ้า จึงเป็นพฤติกรรมฉ้อฉลมุ่งมั่นกำจัดปลาออกไปจากน้ำเพื่อความได้เปรียบของพรรคประชาธิปัตย์โดยไม่คำนึงถึงความผิดชอบชั่วดีใดๆ ดีเอสไอบังอาจกระทำการมิชอบตบตาประชาชนเยี่ยงนี้ได้ เนื่องจากรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์สามารถควบคุมสื่อโดยไม่มีสื่อหลักใดๆ เสนอข่าวคำให้การเมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ของ พ.อ. สรรเสริญเลย

อาจารย์สาวตรี สุขศรี แห่งคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ หนึ่งในคณาจารย์นิติราษฎร์ ชี้ให้เห็นในข้อกฏหมายว่าการออกผังล้มเจ้าของ ศอฉ. ดังกล่าวเป็นความผิดฐานใช้อำนาจโดยมิชอบ ผู้ที่มีรายชื่อในผังทั้งหมดสามารถฟ้องร้องเอาความผิดต่อรัฐ ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา ๓๒๖ และ ๓๒๘ ฐานหมิ่นประมาท พร้อมทั้งความผิดทางแพ่งฐานละเมิด ตามประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ และ ๔๒๓ ได้*

นอกเหนือจากพฤติกรรมของนายธาริตอันเป็นการใช้อำนาจรัฐละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลดังกล่าวแล้ว รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ซึ่งเป็นต้นสังกัดโดยตรงยังประพฤติผิดครรลองทางการเมืองอย่างร้ายแรง

ในเมื่อมีการยุบสภาไปแล้ว รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์จึงมีฐานะเพียงผู้รักษาการที่ไม่อาจกระทำการใดๆ ให้คุณให้โทษแก่พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะในเมื่อตนเองเป็นคู่แข่งอยู่ในกระบวนการเลือกตั้งนี้ด้วย

ความพยายามจับปลาออกจากน้ำอย่างโง่เขลาเอาแต่ได้ โดยทำไม่รู้ไม่ชี้ว่าความจริงจะต้องปรากฏ และปรากฏเร็วกว่าที่คิดในกรณีเช่นนี้ แทนที่จะแยกปลาจากน้ำได้ คณะเทพประทานของนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์กลับเพิ่มน้ำให้กับปลาเสียอีก

เพราะเวลานี้คนที่เคยไม่อินังขังขอบกับการหาเสียง และพวกที่พยายามเลี่ยงประเด็นการเมืองด้วยข้ออ้างว่า เบื่อ ได้พบกับการหลอกลวง พูดอย่างทำอีกอย่าง ใช้วาทกรรมให้ตนเด่นดีโดยไม่มีข้อเท็จจริงสนับสนุน รวมทั้งดึงดันกล่าวหาเสื้อแดง และพรรคคู่แข่งแต่ในสิ่งเลวร้ายที่ไม่เพียงเป็นเท็จ

หากแต่ด้วยข้อมูลความจริงทั้งหลายแหล่ที่ปรากฏออกมา แสดงให้เห็นว่าคำพูดของนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ นายธาริต หรือพวกลิ่วล้อลิง** เกาะโพเดี้ยมของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหลาย ล้วนบิดเบือน มุสา หาความสัตย์ไม่ได้ทั้งสิ้น

นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ควรที่จะย้อนดูตัวว่าสองปีกว่าที่ผ่านมาได้ทำอะไรที่ประชาชนส่วนใหญ่ชอบใจ บ้าง (ไม่ถึงกับต้องชื่นชมก็ได้) แล้วดำเนินยุทธวิธีหาเสียงให้ต้องตรงกับความเป็นจริง เช่นแทนที่บอกว่าจะเริ่มทำตั้งแต่วันแรกโดยผู้ฟังยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร หลังจากที่เคยคุยโวไว้หลายอย่างว่าจะทำภายใน ๙๐ วันแล้วไม่เคยทำได้สักอย่าง

ถ้าบอกว่าหากได้รับเลือกตั้ง ไข่อภิสิทธิ์จะใช้วิธีวัดปริมาตรแต่ละฟองคัดจำหน่าย แทนการเหมาเข่งชั่งกิโลขาย หรือต่อไปน้ำมันปาล์มจะไม่ส่งออกไปลอยลำนอกน่านน้ำรอนำเข้าอย่างเคย เช่นนี้น่าจะเป็นข้อแก้ตัวทำให้เห็นได้บ้างว่าคณะอภิสิทธิ์ เทพเทือก-ธาริต ยังมีความตั้งอกตั้งใจจะบริหารประเทศ

ดูเหมือนว่าเวลานี้แม้แต่พวกเหลืองแท้ยังปลงใจยอมรับนายห้างใหญ่***มากกว่าที่จะยอมทนเซ็งกับทีมงานฟันน้ำนมปลิ้นปล้อน-จรกาเมือกดารา และอัยการศาลเตี้ย

กลายเป็นว่าปลาที่ถูกไล่ล่ากลับได้น้ำเพิ่มมาโดยไม่ต้องขวนขวาย ถึงน้ำใหม่บางสายจะเคยเป็นน้ำไม่บริสุทธิ์อยู่บ้าง แต่ก็ผ่านกระบวนการกำจัดของเสียมาแล้ว

เขียนอย่างนี้หวังว่าเพื่อนๆ สีเหลืองที่เริ่มยอมรับความจริงคงจะพอใจ ถึงผมไม่ได้บอกว่าเหลืองทั้งหลายเคยบริสุทธิ์ ต้นน้ำอาจจะขุ่นข้น หมักหมมด้วยโคลนตม พอผ่านการกรองจากโขดหินผา ป่าไม้ และทะเลทราย มาพอประมาณแล้ว ก็กลายเป็นน้ำดีขึ้นได้

ปัญหามีเพียงว่าปลาในครอกทั้งหลายเห็นคุณค่า หรือพึงพอใจกับน้ำเดิมเพียงใด ท่ามกลางกระแสโพลถือหางเพื่อไทยอย่างแรง แต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ตัวประสานสำคัญระหว่างบูรพาพยัคฆ์กับรัฐบาลเทพประทานก็ยังมั่นใจนักหนาว่าจะได้เป็นรัฐบาลอีก

ขณะที่นายเนวิน ชิดชอบ ผู้บงการพรรคภูมิใจไทย หมอผีงูเห่าที่ถวายความจงรักภักดีเสียจนรวยเอาๆ ทำนายว่าถึงอย่างไรนายกฯ จะต้องเป็นคนกลาง ยังผลให้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ขนลุกซู่ถึงขั้นบอกว่าจะไปกราบพ่อมดห้อยนั่นเชียว

ในสถานการณ์ก่อนเลือกตั้งที่คนเสื้อแดงถูกไล่ล่าหนักข้อด้วยอำนาจเกินกฏหมาย ฝ่ายทหารส่งกองกำลังลงพื้นที่สีแดง เข้าจี้เจาะถึงตัวประชาชนชาวบ้านเพื่อคุ้ยหาข้อมูล โดยอ้างปฏิบัติการเฉพาะกิจปราบยาเสพติดหน่วย ๓๑๕ ประดุจดังว่าน้ำกำลังถูกทำให้เกิดมลพิษด้วยของเสีย

จากคำพูดของนายจตุพรอีกนั่นแหละว่า คนเสื้อแดงก็เหมือนน้ำ พรรคเพื่อไทยก็เหมือนปลา ถ้าไม่มีน้ำปลาก็ตายคนหาปลาซึ่งยังชีพด้วยการประมงจะต้องขวนขวายหาทางแก้ไขมลพิษเหล่านั้นโดยไว เพราะถึงจะไม่ขาดน้ำ แต่ถ้าน้ำเน่าปลาก็ตายเหมือนกัน

สิ่งหนึ่งที่ทั้งฝ่ายทหารภายใต้การกำกับของ พล.อ.ประยุทธ์ และฝ่ายการเมืองภายใต้การดำเนินงานของนายธาริตโหมช่วยกันตีอย่างเมามันในขณะนี้ ก็คือการอ้างใช้กฏหมายอาญามาตรา ๑๑๒ จับคนเข้าคุก หมายจะข่มขวัญ และปิดกั้นในบรรยากาศของการหาเสียงเต็มพิกัด ไม่ให้มีการประโคมความชั่วร้ายต่างๆ ที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้กระทำมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรยากาศที่ประชาชนในสาขาอาชีพต่างๆ ทั้งนักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ นักกฏหมาย นักเขียน ศิลปิน ต่างตื่นตัวออกมาแสดงจุดยืนในหลักการมนุษยธรรมกันอย่างกว้างขวาง บ้างเพียงต้องการให้มีการอภิปรายอย่างเปิดเผย และเสรีในปัญหาเกี่ยวกับการเอาโทษความผิดฐานหมิ่นสถาบันกษัตริย์ บ้างอยากให้มีการปฏิรูปการบังคับใช้ ม. ๑๑๒ บ้างเรียกร้องให้ยกเลิกตัวบทซึ่งมีระวางโทษรุนแรงเกินกว่าความผิดนี้ไปเสียเลย

แต่ปลาเพื่อไทยที่กำลังได้น้ำเสื้อแดงแข็งขันอยู่ ณ บัดนี้ยังไม่เคยได้แสดงให้เห็นจุดยืน และนโยบายใดๆ ในเรื่องนี้อย่างแจ่มแจ้ง ใครก็ตามที่เป็นคนหาปลาซึ่งจะได้ประโยชน์จากพรรคเพื่อไทยไม่ว่าสถานใด ควรจะเริ่มกระบวนการกำจัดของเสียที่ถูกเททิ้งลงไปในน้ำได้แล้ว

ม. ๑๑๒ คือของเสียที่เป็นมลพิษแก่ธารน้ำใจคนเสื้อแดง หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปอีกไม่นาน ปลาเพื่อไทยจะต้องสำลักตายแน่ๆ

* http://www.prachatai3.info/journal/2011/05/35080

** สมัยที่ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกล้อเลียนจากหนังสือพิมพ์ว่าเหมือนดั่งฤๅษีไล่จับลิง

*** ดู คำเตือน Vote No เถ้าแก่ : เจตนาไม่บริสุทธิ อันตรายต่อประชาธิปไตย โดยชัยวัฒน์ สุรวิชัย ในโอเคเนชั่น (ขออภัยไม่มีลิ้งค์)

No comments:

Post a Comment