Monday, July 9, 2012

ตุลาการไทยเอาอย่างศาลสูงอเมริกันบ้างก็ดี



ไม่ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาเช่นไร เป็นไปตามที่วิปรัฐบาล นายอุดมเดช รัตนเสถียร คาดหมายไว้ข้อใดข้อหนึ่งในสามข้อหรือไม่ก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญก็ยังไม่พ้นจากการกระทำผิดฐานกบฏตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา ๑๑๓ อยู่ดี*(1)

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกำหนดวันวินิจฉัยคำร้องกล่าวหารัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. ๒๙๑ ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และอื่นๆ ในวันศุกร์ที่ ๑๓ กรกฎาคมนี้ เป็นที่กล่าวขวัญว่าจะนำไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทย แกนหลักของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ/หรือ อาจนำมาซึ่งมิคสัญญีในชาติครั้งใหญ่ที่สุด

เนื่องจากนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกมาประกาศว่าจะมีการชุมนุมของมวลชนเสื้อแดงไม่น้อยกว่าสองแสนคน เพื่อคัดค้านการที่ตุลาการซึ่งมาจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหารก้าวก่ายฝ่ายนิติบัญญัติที่มาจากการเลือกตั้ง และ นพ. ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสีก็ประกาศเช่นกันว่าจะจัดชุมนุมปกป้องศาลรัฐธรรมนูญสี่มุม โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๑ กรกฎาเลยทีเดียว

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าท่าทีของ ตลก. รธน. ในคดีนี้ ปรับใช้กฏหมายรัฐธรรมนูญ ม. ๖๘ เกินขอบข่ายอำนาจ และละเมิดรัฐธรรมนูญด้วยการล่วงล้ำการดำเนินงานอันเป็นเอกสิทธิ์ของสถาบันนิติบัญญัติ

จากการที่มีนักกฏหมาย และนักวิชาการในสาขาต่างๆ ได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทของตุลาการในกรณีนี้ไว้มากมาย*(2) ส่วนใหญ่ระบุว่าเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต ข้ามขั้นตอน และพิจารณาด้วยอารมณ์เพ้อฝันทางการเมืองมากกว่าข้อเท็จจริงกับข้อกฏหมาย รวมทั้งคำกล่าวที่ว่าเป็นการทำ รัฐประหารโดยตุลาการ

ต่อการนี้ผู้เขียนขอนำเรื่องราวเกี่ยวกับการตัดสินคดีสำคัญโดยศาลสูงสุดสหรัฐที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปอย่างพลิกความคาดหมายมาเทียบเคียงเป็นวิทยาทานแก่ศาลไทย

ศาลสูงสุดสหรัฐยกคำร้อง (Strike down) คำฟ้องฝ่ายโจทก์ในประเด็นสำคัญที่ต้องการให้ศาลพิพากษาว่ากฏหมายประกันสุขภาพพอเพียง (Affordable Healthcare Act) ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากกำหนดให้ประชาชนต้องมีการประกันสุขภาพถ้วนหน้ามิฉะนั้นถือว่ามีความผิดตามบทกฏหมายเกี่ยวกับการพาณิชย์ ต้องถูกปรับไหม

แต่ปรากฏว่าคำพิพากษาออกมาอย่างพลิกล็อคเมื่อผู้พิพากษาหัวหน้าศาลสูงสุด จอห์น รอเบิร์ต ไปร่วมกับกลุ่มผู้พิพากษาฝ่ายเสรีนิยมสี่ท่านเป็นเสียงข้างมากตัดสินให้บทว่าด้วยข้อบังคับ (Individual Mandate) อันเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในทางสาธารณะมามากแล้วนั้น ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญในบริบทแห่งกฏหมายเกี่ยวกับอำนาจในการเก็บภาษีของรัฐบาลกลาง

การที่ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลสูงสุดรอเบิร์ตชักนำให้ผู้พิพากษาสายเสรีนิยมอีกสี่ท่านคล้อยตามหลักเกณฑ์วินิจฉัยตามบริบทว่าด้วยภาษี (Tax) แทนที่บทเกี่ยวกับการพาณิชย์ (Commerce) ในการให้เหตุผลสนับสนุนบทบังคับประชาชนรายบุคคลต้องมีประกันสุขภาพ เป็นที่งงงันของอเมริกันชนสายอนุรักษ์นิยม ในเมื่อตลอดการดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลสูงสุด ท่านรอเบิร์ตไม่เคยเลยที่จะวินิจฉัยคดีผิดเพี้ยนไปจากแนวอนุรักษ์

มิหนำซ้ำก่อนหน้าการตัดสิน ในระหว่างไต่สวนปากคำคู่กรณีช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เป็นที่คาดหมายว่าหัวหน้าศาลฯ จะต้องเป็นผู้นำทีมอนุรักษ์อีกสี่ท่านตีตก ก.ม.ประกันสุขภาพที่ได้รับฉายาว่า โอบาม่าแคร์ นี้แน่นอน แต่ปรากฏว่าท่านหัวหน้ากลับทำเซอร์ไพร้ส์เสียเอง

แทนที่จะเป็นผู้พิพากษา แอนโธนี่ เค็นเนดี้ ไปเข้ากับฝ่ายเสรีนิยมอย่างที่เคยทำหลายครั้ง และทุกคนคาดหมายเอาไว้ว่าเป็นทางเดียวที่โอบาม่าแคร์จะรอดจากปากเหยี่ยวได้ ทว่าผู้พิพากษาเค็นเนดี้นั้นแหละกลับต้องมาพยายามดึงหัวหน้าให้กลับเข้าจารีตเดิม แต่ก็ไม่ได้ผล

รายงานข่าว โดยแจน ครอว์ฟอร์ด หัวหน้าข่าวภาคกฏหมายของสำนักข่าวซีบีเอสอ้างแหล่งข่าวนิรนามจากภายในคณะเสมียนศาลสูงสุดสองคนว่า ท่านหัวหน้าฯ รอเบิร์ตเปลี่ยนใจในช่วงสุดท้ายของการไต่สวนความ แล้วพยายามชักชวนผู้พิพากษาเค็นเนดี้ให้มาร่วมวงกับท่านให้ได้เสียงข้างมากเด็ดขาด พร้อมทั้งโน้มน้าวผู้พิพากษาสายเสรีนิยมให้เปลี่ยนเหตุผลอ้างอิงเรื่องอำนาจกำกับการพาณิชย์ มายอมรับหลักการเรื่องภาษีแทน*(3)

รายละเอียดเหล่านี้ถ้านำมาเทียบเคียงกับท่าทีของศาลรัฐธรรมนูญไทย โดยเฉพาะบทบาทของท่านประธานฯ วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ในฐานะที่ท่านชอบอ้างอิงภาษาอังกฤษ (กรณีที่นายวสันต์บอกให้ไปอ่านภาคภาษาอังกฤษของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๖๘ ว่าประชาชนสามารถยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลได้ ไม่ต้องผ่านอัยการสูงสุดตรวจสอบดังการตีความตามลายลักษณ์อักษรโดยนักกฏหมายหลายคน)

หากประธานศาลไทยเรียนรู้การใช้ชั้นเชิงทางกฏหมายอย่างหัวหน้าศาลสูงสุดสหรัฐ ท่านอาจไม่ต้องออกอาการบ่นบนบัลลังก์ว่าภายนอกศาลเขาด่ากันขรม

ไม่ต้องแอบเก็บความอับอายไว้ภายในเมื่อถูกอัยการสูงสุดสอนมวยเรื่องการวินิจฉัยตามหัวข้อกฏหมาย แล้วไปเที่ยวออกอาการบนบัลลังก์ อย่างที่กล่าวว่า การจัดงานพบสื่อไม่ใช่เป็นการจัดเพื่อหาเสียงให้สื่อหันมาสนับสนุน เพราะสื่อถล่มศาลรัฐธรรมนูญอยู่ทุกวัน และ จะว่าเป็นคนมืออ่อนหรืออย่างไรก็ว่ากันไป แต่ตลกที่มีคนที่ไม่ได้จบกกหมายออกมาวิจารณ์ด่าศาลรัฐธรรมนูญทางโทรทัศน์”*(4)

นั่นเป็นการแสดงให้เห็นถึงอัตตะวิสัยอันตื้นเขินเกินไปสำหรับตำแหน่งสูงส่งเช่นประธานศาล จึงน่าจะหันมาเรียนรู้จากประธานศาลสูงสุดสหรัฐเอาไว้บ้าง โดยทั้งที่ศาลสูงสุดสหรัฐด้วยจำนวนข้างมาก ๕ ท่านเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยม ถูกโจมตีว่าตลอด ๔-๕ ปีที่ผ่านมาล้วนแต่พิพากษาตามอุดมการณ์ทางการเมืองฝ่ายขวาอยู่เสมอ มีการหักล้างแนวทางเสรีนิยมตามกฏหมายดั้งเดิมบางอย่างหลายครั้ง*(5)

แต่ศาลสูงสหรัฐก็ยังสามารถรักษาศักดิ์ศรีในฐานที่เป็นองค์กรสูงสุดทางด้านกฏหมาย และเป็นผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญอย่างชอบธรรมมาได้โดยตลอด

ดังเช่นคดีกฏหมายประกันสุขภาพพอเพียงนี้ ถ้าตุลาการข้างมากยังคงดันอุดมการณ์อนุรักษ์ต่อไปโดยรวมหัวกันตัดสินให้กฏหมายดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ ก็จะเป็นที่ครหายิ่งขึ้นกว่าเดิมว่าไม่เป็นกลาง และไม่เห็นแก่ประโยชน์ของผู้มีรายได้ต่ำไม่สามารถซื้อประกันสุขภาพได้ เนื่องจากเบี้ยประกันสูงขึ้นมากอย่างรวดเร็วทุกปี จะกลายเป็นชนักติดไปกับกลุ่มผู้พิพากษาอนุรักษ์ที่ได้สมยา ศาลรอเบิร์ต นี้ตลอดไป ว่าทับถมความเดือดร้อนให้แก่คนยากจน

ด้วยท่าทีของผู้พิพากษากลุ่มอนุรักษ์ในระหว่างการไต่สวน โดยเฉพาะผู้พิพากษาเค็นเนดี้แสดงชัดว่าต้องการตีตกฏหมายโอบาม่าแคร์แน่นอน โดยที่ความพยายามปฏิรูประบบประกันสุขภาพถ้วนหน้านับแต่สมัยประธานาธิบดีบิล คลินตัน โดยการนำของนางฮิลลารี่ คลินตัน สตรีหมายเลขหนึ่งขณะนั้นถูกฝ่ายอนุรักษ์คว่ำไม่เป็นท่า ต่อมาวุ ฒิสมาชิกเท็ดดี้ เค็นเนดี้ พยายามรื้อฟื้นการปฏิรูปขึ้นมาอีก ยังไม่ทันสำฤทธิ์ผลท่านก็มีอันจบชีวิตไปเสียก่อน

ความหวังของการปฏิรูประบบประกันสุขภาพอเมริกันที่ล้าหลังประเทศเจริญแล้วในยุโรปอยู่หลายขุม มาเป็นจริงได้ในสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า นี่เอง เมื่อกฏหมายผ่านสภา และประธานาธิบดีลงนามประกาศใช้ในปี ค.ศ. ๒๐๐๙ แต่ก็ยังไม่วายถูกฝ่ายขวารณรงค์ที่จะถอนรากให้จงได้ รวมไปถึงการฟ้องร้องจนไปถึงศาลสูงสุดดังกล่าว

แม้เป็นเรื่องคาดไม่ถึงว่าหัวหน้าฯ รอเบิร์ตจะกลับตาลปัตร แต่ว่าก่อนหน้านั้นก็มีการวิจารณ์อยู่บ้างว่าท่านหัวหน้านี่แหละเป็นความหวังสุดท้ายของการปฏิรูประบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า ในตำแหน่งสูงสุดฝ่ายตุลาการท่านรอเบิร์ตมีโอกาสที่จะบันทึกชื่อตนเองไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นผู้ หัก หรือ อุ้ม การปฏิรูประบบประกันสุขภาพได้

มีสื่อบางรายเขียนชี้แนะช่องทางไว้แล้วด้วยว่า บทบังคับซื้อประกันที่พวกอนุรักษ์พากันโจมตีนักหนานั้น รัฐบาลโอบาม่าวางหมากไว้อย่างแยบยลให้เป็นที่ยอมรับของฝ่ายตรงข้าม*(6) อย่างน้อยในภาคธุรกิจกลุ่มบริษัทประกันสุขภาพทั้งหลาย ด้วยเหตุที่ต้นทุนการอำนวยการด้านสาธารณะสุขสูงขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา จำนวนผู้มีความสามารถซื้อประกันอย่างพร้อมมูลจึงลดน้อยลง ทำให้ตลาดผู้ใช้อุปโภคด้านประกันหดตัวตามไปโดยปริยาย

ในเมื่อกฏหมายประกันสุขภาพบังคับทุกคนต้องซื้อประกัน ก็เท่ากับสร้างตลาดลูกค้าให้แก่อุตสาหกรรมประกันสุขภาพได้อย่างดี หาที่เปรียบมิได้

เช่นนี้ในเชิงธุรกิจ และการตลาดเสรี อันเป็นอุดมการณ์หลักส่วนหนึ่งในสายอนุรักษ์นิยมอเมริกัน บทว่าด้วย Individual Mandate ย่อมเป็นที่พอใจของภาคส่วนทางการเมืองฝ่ายอนุรักษ์ไม่มากก็น้อย ทั้งๆ ที่ในแง่ของเสรีภาพส่วนบุคคลดูจะเป็นการบีบบังคับประชาชนก็ตามที

เห็นได้ว่าการเปลี่ยนใจของหัวหน้าศาลสูงสุดสหรัฐหันไปเข้ากับฝ่ายเสรีนิยมเพื่อสนับสนุนกฏหมายประกันสุขภาพนั้นทำให้เกิดคุณค่าเพิ่ม และเชิดชูศักดิ์ศรีของคณะตุลาการในฐานะที่เป็นทางออกอันน่าเชื่อถือของความขัดแย้งทางการเมือง (เรื่องประกันสุขภาพ) ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการหันไปหาข้อกฏหมายอื่นในรัฐธรรมนูญมาสนับสนุน ขณะที่ปฏิเสธเหตุผลของฝ่ายรัฐบาล

และยังสามารถแสดงจุดยืนอนุรักษ์นิยมต่อไปด้วยการตีตกบทสำคัญอีกหนึ่งในกฏหหมายประกันสุขภาพว่าด้วยการขยาย เมดิเคด (Medicaid) อันเป็นระบบของรัฐบาลกลางที่อำนวยสุขภาพถ้วนหน้าโดยเฉพาะแก่คนยากจน

ส่วนประธานศาลรัฐธรรมนูญของไทยนั้นเล่ากลับประพฤติไปอีกทางอย่างศรีธนญชัย นอกจากจะให้คำอธิบายข้างๆ คูๆ พร่ำเพ้อคาดหมายว่าจะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ เมื่อมีผู้นำข้อกฏหมายที่ศาลอ้างนั้นเองมาใช้โต้แย้ง แล้วยังออกอาการลุกลี้ลุกลนเร่งดำเนินการให้คำร้องของกลุ่มฝ่ายค้านกับอดีตคณะรัฐประหารเกิดผล โดยไปคว้าเอาประมวลวิธีพิจารณาความกฏหมายแพ่งมาใช้สั่งการอย่างลุล่วงแก่อำนาจ ก้าวก่ายฝ่ายนิติบัญญัติ

แต่ก็อีกนั่นแหละ จะหวังอะไรกับวุฒิภาวะของลิ่วล้อ (Surrogate) เผด็จการ ดูจากต้นกำเนิดศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ไม่ต่างจากลูกนอกสมรสที่คนอังกฤษโบราณเรียกว่า Bastard นั่นคือเกิดจากบทเฉพาะกาลก่อนการจุติรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ ครั้นเมื่อ รธน. ฉบับนี้สามารถ ผ่านๆ ไปก่อน ไว้แก้ทีหลัง ได้แล้ว ก็มีการโยนกลอง ตลก. ต่อมาจนบัดนี้คณะรัฐประหาร คมช. พ่อที่แท้จริงตามสายเลือดล่มสลายไปนานแล้ว เชื้อไม่ทิ้งแถวก็ยังกระทำปู้ยำระบอบประชาธิปไตยต่อไปไม่ลดละ

เป็นที่น่าเสียดายรัฐบาลของกลุ่มการเมืองซึ่งเคยถูกปู้ยี่ปู้ยำอย่างช่ำโชกโดยผู้บังเกิดเกล้าของ ตลก. รธน. ชุดนี้ และสามารถกลับมาลืมตาอ้าปากอีกครั้งด้วยน้ำแรงของประชาชนที่ต่อต้านรัฐประหาร และคัดค้านการครอบงำโดยกลุ่มอภิสิทธิ์อำมาตย์ ไม่เพียงแต่ไม่กล้ายืนหยัดชูอธิปไตยของประชาชน หากยอมนบนอบตอบรับการล่วงล้ำจาก ตลก. โดยดีเสียด้วย

ขณะที่ประชาชนฐานเสียงของตนต่างร้องแรกแหกกระเฌอประจานความผิดของศาล รัฐบาลกลับแถลงแจ่มแจ้งว่าจะยอมรับคำวินิจฉัยของ ตลก. โดยดุษฎี

เทียบเคียงกันไม่ได้เลยกับรัฐบาลใหม่ของอียิปต์ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด มอร์ซี ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งมาอย่างสดๆ ร้อนๆ ท่ามกลางแรงกดดันอย่างหนัก ของฝ่ายทหาร และคณะตุลาการ อันยังคงเป็นศูนย์อำนาจทางการเมืองแท้จริงภายหลังการปฏิวัติประชาชน อาหรับสปริง ก็ยังกล้าเชิดชูอำนาจอธิปไตยของประชาชนด้วยการสั่งเปิดประชุมสภาใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบไปเมื่อเดือนที่แล้ว*(7)

เห็นแล้วน่าอิจฉาทั้งประชาชนอียิปต์ และชาวอเมริกัน สงสารก็แต่ประชาชนไทยที่รักประชาธิปไตย ถึงแม้บางคนเปลี่ยนมาหลงใหล คนเก่ง มากกว่า คนดี แล้วก็ตามที


*(1) มาตรา ๑๑๓ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อ (๒) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้...ผู้นั้นกระทำความผิดฐานกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
ส่วนความคาดหมายของวิปรัฐบาล อ้างว่าทีมกฏหมายพรรคเพื่อไทยวิเคราะห์แนวทางตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเป็น ๓ กรณีคือ ๑. ยกคำร้อง ๒. แก้ไขทั้งฉบับตาม ม.๒๙๑ ไม่ได้ ต้องไปยกร่างใหม่เป็นรายมาตรา และ ๓. ผู้ถูกร้องมีความผิด และนำไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทยโปรดดูรายงานข่าวไทยรัฐ  http://www.thairath...._medium=twitter
*(2) ตัวอย่างโดยสังเขปจากการอภิปรายของอดีตคณบดีนิติศาสตร์ มธ. ที่นี่ http://www.youtube.com/พนัส ทัศนียานนท์ และการแถลงข่าวของนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการพรรคไทยรักไทย ที่นี่ http://www.youtube.com/จาตุรนต์ ฉายแสง
*(4) http://www.oknation.net/blog/kobkab/2012/07/02/entry-1
*(6) http://www.nytimes.com/2012/04/01/opinion/sunday/douthat-the-genius-of-the-mandate.html
*(7) http://www.nytimes.com/2egypts-president-orders-return-of-dissolved-parliament/

No comments:

Post a Comment